วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

7 “ไอ้แป๊ก”คนไทยที่อายุน้อยที่สุดและเก่งที่สุดในโลก

ที่มา : http://mlm.thaimlmnews.com/ สืบค้นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2560
ชื่อหนังสือ : ไอ้แป๊กคนไทย...ที่อายุน้อยที่สุด...และเก่งที่สุดในโลก
ผู้แต่ง : สมคิด  ลวางกูร
สำนักพิมพ์ : บริษัท สำนักกุโสดอ จำกัด
จำนวนหน้า : 249 หน้า
ราคา : 150บาท
          หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการModelความคิดขึ้นมาใหม่ของคนที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกที่มีนามว่าไอ่แป๊กคนไทยที่อายุน้อยที่สุดและเก่งที่สุดในโลกในการลงมือลงทุนทำธุรกิจของเขาจนประสบความสำเร็จ โดยมีหลักความคิดต่างๆมากมายอย่างเช่นดังในหนังสือที่ได้เขียนไว้ข้างในเล่มในความคิดหลักการที่ว่า โลกมันเปลี่ยนแปลงเยอะและเร็วมาก มันเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบผลิกโลก กลับด้านได้เลย วิธีการเดิมๆ ความคิดเดิมๆที่เคยทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตเมื่อ 10-20ปีที่แล้ว ปัจจุบันมันใช้สร้างชีวิตไม่ได้แล้ว เพราะบางอย่างมันก็มีเยอะจนเกินไป มองไปทางไหนก้อเห็นแต่แบบเดิม ทำให้เกิดคู่แข่งในการสร้างธรกิจสร้างอาชีพมากมายและนอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ยังได้เขียนถึงหลักความคิดที่จะสร้างชีวิตที่จะทำให้ประสบความสำเร็จว่าควรทำอย่างไร แต่สำหรับผม ผมว่าหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งเป็นการแนะนำขั้นจอนวิธีการคิด วิธีการทำงาน ให้ประสบความสำเร็จปรับใช้ให้เหมาะกลับยุคสมัยในปัจจุบัน แต่สิ่งที่คนส่วนมากจะปฏิบัติหลังจากเกิดแรงจูงใจจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ หลายคนอาจจะทำตามอาจจะใช้หลักคิดตามในหนังสือแล้วไม่ประสบความสำเร็จไม่ต้องสงสัยเลยครับเพราะหนังสือเขาก็เขียนระบุว่าถ้าต้องการทำอะไรให้ประสบความสำเร็จ ควรมีหลักการคิดที่แปลกใหม่ รอบครอบ ทันสมัย เป็นสิ่งที่ยุคปัจจุบันต้องการอย่างมาก มีคุณภาพแต่ถ้าเราไปทำตามขั้นตอนในหนังสือตามผู้เขียนเราก็ไม่สำเร็จหลอกครับเราอาจจะคิดได้หลักการใหม่ขึ้น หรืออาจจะคิดได้หลักการการทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้ดีกว่าและไวกว่า แต่ในหนังสือเล่มนี้ผมเห็นด้วยอยู่หลักการหนึ่งที่ว่าคนทั่วโลกร่ำรวยมหาศาลจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ จากPlatformใหม่ จริงครับเพราะยุคสมัยนี้มีแต่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้เกิดความรวดเร็วในการผลิตซึ่งแต่ละบริษัทก้อต้องการกันอย่างมากมายแต่หารู้หรือไม่ว่าความคิดการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่นี้จะทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาก็คือ ปัญหาการว่างงานทำให้มีผู้คนตกงานกันอย่างมากมาย เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาแทนแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆมากมายเพราะว่าเป็นการลงทุนที่ได้มาตราฐานเป็นการลดต้นทุนในการจ้างแรงงานอีกด้วย อย่างไรก็ตามการเริ่มต้นชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย การสร้างอนาคต ยิ่งยากกว่าถ้าไม่รู้จักการวางแผนชีวิตให้ดีเสียก่อน จะทำให้ประสบความสำเร็จยาก
แง่มุม 5 แง่มุมที่คุณจะได้เห็นเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้
1.จะได้สัมผัสกับความคิดที่สามารถทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตได้รางๆและยังสามารถทำให้เรานำไปใช้คิดตามหรือใช้ในการปฏิบัติต่างๆได้ว่าการที่เราจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาง่ายๆไม่ได้ ได้มาง่ายแต่อยู่ที่ว่า ระยะเวลา ความคิด ความพยายาม ความตั้งใจ กำลังใจ จุดประสงค์เพื่อเป็นการจุดประกายแรงบาลดาลใจให้มีเรื่องสู้ต่อไม่ท้อถอย
2.การที่เริ่มทำอะไรสักอย่างก่อนคนอื่น ได้เปรียบ หรือกล่าวง่ายว่าเริ่มก่อนได้เปรียบ ตัวอย่างเช่นเด็กอายุ15เริ่มทำงานหาตังเรียนเองแล้วค่อยๆผลันตัวขึ้นมาทำเป็นธุรกิจ สิ่งแน่นอนว่าการผิดพลากย่อมมากกว่านักธุรกิจที่อายุ30กว่าๆแน่ แต่ในการผิดพลาดของเด็กอายุ15ยังมีเวลาที่จะลุกขึ้นมาพัฒนาใหม่ และยังเหลือเวลาอีกมาก จนกว่าจะประสบความสำเร็จและเมื่ออายุ30เค้าไม่ต้องมาเสียเวลาพึ่งเริ่มธุรกิจ แต่เค้ามีธุรกิจเรียบร้อยแล้ว เหนื่อยกว่า ผิดผลาดกว่า แต่...คุ้มค่ากว่า
3.คิดว่าการประสบความสำเร็จคือเรียนให้จบเรียนอย่างเดียวให้ได้ใบปริญญา เพื่อมาใช้ในการทำงานได้เงินเดือน เดือนละ1200-20000บาท บางคนอาจหางานได้ดีกว่านั้นกว่ากันไป แต่ถ้าเราได้เงินได้แค่12000คิดว่าพอหรือป่าวพอแค่เราคนเดียวหรือป่าว คำว่าประสบความสำเร็จ สำเร็จแค่เราคนเดียวหรือ การตอบแทนพระคุณแม่ด้วย ดั้งนั้นหนังสือเล่มนี้สอนเลยว่าการเรียนนั้นเป็นส่วนประกอบของความสำเร็จ แต่เราต้องฝึกปฏิบัติให้พร้อมกับชีวิตจริงเพื่อความรู้ที่แท้จริงและนำกลับไปปรับปรุงแก้ไข
4.จนไม่ผิด ไม่รู้ไม่ผิด ยังไม่มีอนาคตไม่ผิด แต่ถ้าจน ไม่มีตังค์ ไม่มีงานทำ ไม่มีอนาคต แล้วยังไม่ขวนขวาย นี่แหละผิด ชีวิตหายนะแน่นอน

5.อยากรู้ว่าอนาคตเราเป็นอย่างไร ให้ดูที่ หนังสือที่เราอ่าน เพื่อนที่เราคบ สังคมที่เราเลือกอยู่  เราอ่านหนังสิ คบเพื่อน เลือกอยู่ในสังคมแบบไหน อนาคตของเราจะเป็นแบบนั้น และคุณสมบัติของคนรุ่นใหม่ต้องทำงานที่สร้างอนาคตได้ ต้องมี Platform เป็นของตัวเองต้องเป็นเศรษฐี ตั้งแต่อายุยังน้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น